วันมหาศิวะราตรี ( Mahashiva Ratri )
วันมหาศิวะราตรี ( Mahashiva Ratri )
วันมหาศิวะราตรี ( Mahashiva Ratri )
วันมหาศิวะราตรีเป็นทั้งงานพิธีกรรมและงานถือพรต วันนี้หมายความว่าเป็นราตรีกาลแห่งองค์พระศิวะเทพและวันนี้จะตรงกับวันแรม 14 ค่ำของเดือนผลคุน ( Phalguna เดือนที่ 3 ) นับว่าเป็นวันที่ผู้ที่นับถือทางศาสนาพรามณ์ทุกชั้นวรรณะจะต้องร่วมกันประกอบพิธีกราบไหว้บูชาต่อพระศิวะมหาเทวะ บรรดาเหล่าผู้ที่เคารพบูชาต่อพระองค์จะใช้เวลาตลอดคืนต่อการประกอบสมาธิท่องสวดมนตร์ ร้องเพลงสรรเสริญ และเล่าเรื่องราวความยิ่งใหญ่แห่งพระศิวะเทพ
พระสัญญาลักษณ์ของพระศิวะ ( ศิวะลึงค์ ) จะต้องนำมากราบไหว้บูชาด้วยการรดน้ำ (คงคายัล) น้ำนม นมเปรี้ยวน้ำผึ้ง และน้ำมันเนยแท้ ใบพลู ใบมะตูม ผลไม้ ขี้เถ้าและดอกไม้ต่าง ๆ อันเป็นสิ่งจำเป็นยิ่งต่อการถวายบูชาพระศิวะเทพใบพลูถือว่าเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์มากและเป็นที่ทรงโปรดแห่งพระศิวะเทพผู้เคารพจำนวนแสน ๆ คนจะมาชุมนุมเพื่อประกอบพิธีกราบไหว้บูชา ณ โบสถ์แห่งพระศิวะเทพและจะใช้เวลาในยามราตรีประกอบพิธีบูชาท่องสวดมนตร์และการทำสมาธิถึงพระศิวะเทพส่วนมากในประเทศอินเดียจะไปชุมนุมกันที่แค้วนพราณสี ตารเกศวร ไพทนาถ วัลเกศวรฒราเมศวรัม และที่อุชเชน (สถานที่เหล่านี้เป็นที่ประดิษฐานแห่งพระศิวลึงค์ที่สำคัญทางศาสนาและที่ประเทศเนปาลที่เมืองปัสษุปตินาถจะมีการบวงสรวงครั้งยิ่งใหญ่ขึ้นในศิวะราตรีนี้ )
ผู้บูชาจะต้องเข้มงวดต่อการถืออดอาหาร แม้แต่การดื่มน้ำก็ต้องละเว้นดั่งเช่นพระมหาเทวะทรงได้รับการกราบไหว้บูชานี้เชื่อกันว่าพระมหาเทพศิวะจะทรงเสด็จมาโปรดประทานพรให้แก่บริวารแห่งพระองค์พระองค์ทรงเป็นพระพลังอำนาจที่ยิ่งใหญ่องค์หนึ่งในสามมหาเทพพระศิวะเทพทรงเป็นพระมหากาล พระผู้ทำลายความชั่วร้ายบาปกรรมทั้งหลายให้หมดสิ้นไปพระองค์ทรงเป็นพระมหาโยคี เทพเจ้าแห่งสมาธิและทรงโปรดต่อการทำสมาธิมากพระศิวะเทพทรงมีพระนามอีกหลายพระนามคือ พระจันทราเศขรา (พระผู้ทรงมีพระจันทร์เป็นมงกุฎ ) พระคงคาธร (พระผู้ทรงปล่อยให้แม่น้ำคงคาไหลลงสู่โลก ) พระปษุปติเทวะ ( เทพเจ้าแห่งดวงวิญญาณ ) พระวิศวนาถ ( เทพเจ้าแห่งจักรวาล ) . .ฯลฯ
จะต้องมีการเล่าเรื่องราวอันวิเศษของพระศิวะเทพในวันโอกาสดีนี้ มีว่ากาลครั้งหนึ่งยังมีนายพรานผู้หนึ่งมีนามว่าพราน สุสวารเขาอาศัยอยู่ใกล้กับแค้วนพาราณสีเขามีอาชีพเลี้ยงชีวิตด้วยการล่าสัตว์และจับสัตว์ขายในเมืองในวันหนึ่งเขาได้ออกไปล่าสัตว์ในป่าแต่ว่าไม่พบกับสัตว์แม้แต่ตัวเดียวเขาจึงได้เที่ยวหาสัตว์ในป่าลึกและลืมเวลาจนพลบค่ำ ในวันนั้นเป็นข้างแรมท้องฟ้าปราศจากดวงดาวและแสงสว่างใดเลยเขาได้หลงทางไม่รู้จะกลับออกมาจากป่านี้อย่างไรและด้วยเกรงกลัวต่อสัตว์ร้ายในยามราตรีเขาจึงได้ปีนต้นไม้ใหญ่ต้นหนึ่งเพื่อความปลอดภัยต้นไม้นี้คือต้นไทรใหญ่และใต้ต้นไทรนี้มีพระศิวะลึงค์ประดิษฐานอยู่ ณป่าแห่งนี้ตกดึกยิ่งดูน่ากลัว จำทำให้พรานผู้นี้ได้ท่องสวดมนตร์บูชาต่อพระศิวะเทพและเมื่อดึกเข้า เขาเกิดความหิวและกระหายน้ำมากและอีกอย่างหนึ่งเขามีความวิตกห่วงใยต่อครอบครัว ภรรยา และเด็ก ๆว่าคงตั้งหน้าตั้งตารอคอยเขาผู้เป็นบิดา ด้วยความหิวเป็นแน่แท้และการรอคอยการกลับของผู้เป็นหัวหน้าครอบครัว ด้วยอาการกระสับกระส่วนของเขานี้เขาได้เริ่มร้องให้และดึงใบไม้ออกจากกิ่งและปล่อยให้ร่วงลงพื้นลงบนพระศิวะลึงค์ที่อยู่ใต้ต้นไม้โดยมิได้ตั้งใจ เป็นโชคดีอะไรเช่นนั้นวันนี้ก็คือวันศิวะราตรี นายพรานได้กราบไหว้บูชาต่อพระศิวะเทพโดยที่เขาไม่ได้ตั้งใจแต่ว่าเรื่องนี้ที่ทรงโปรดของพระศิวะเทพเป็นอันมากดังนั้นต่อมาภายหลังที่เขาได้สิ้นลมหายใจไปแล้วเขาจึงได้ขึ้นไปอยู่อย่างมีความผาสุขหลุดพ้นจากบาปทั้งหมดที่ได้เคยกระทำไว้ในชาตินี้ไปอยู่ในศิวะโลกเป็นพระบริวาลแห่งพระองค์เมื่อเวลาได้ผ่านไปเขาได้กลับมาเกิดใหม่ในโลกได้รับผลบุญเป็นพระราชามีพระนามว่าพระไชตรภานุพระองค์ทางใช้เวลาทั้งหมดต่อการกราบไหว้บูชาต่อพระศิวะเทพและจำมากที่สุดในวันศิวะราตรีและถือได้ว่าเป็นยอดแห่งผู้บูชาในวันนี้
บทความจาก หนังสือ วันถือศีล-พิธีกรรม ทางศาสนาพราหมณ์(ฮินดู)Fast & Festivals Of Indiaร้านกุลดีป ซอยพาหุรัต
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น