ข้าวสารสี และธัญพืช ถวายพระคเณศ ได้จริงไหม???


 วันนี้ขออนุญาต มาคุยกันเรื่องข้าวสารสี

ที่เราเห็นใส่ขวดเรียงสี วางถวายองค์พระคเณศกันครับ

_______________________




ว่าด้วยเรื่องการ ถวาย ข้าวสาร และธัญพืช ก่อนอื่นเลยต้องขอออกตัวไว้ก่อนว่า ไม่ได้เป็นอาจารย์ หรือผู้มีวิชาแต่อย่างใด เป็นแค่ผู้ศึกษาเรื่องราว และมีโอกาส ได้ไปในสถานที่ต่างๆ บ้างเป็นครั้งคราวเท่านั้น

ในตอนนี้เห็นผู้บูชาพระคเณศในบ้านเรา ได้มีการ นำข้าวสารสีต่างๆ ใส่ขวด ไปวางถวายไว้ จึงพยายามค้นหาข้อมูล จากที่ต่างๆ และได้นำมารวมเป็นบทความนี้ ว่าจริงๆ แล้ว ถวายทำไม ถวายเพื่ออะไร มีประโยชน์ อะไรไหม จำเป็นไหม




เรามาทำความรู้จักกับความหมายของ ข้าวสาร และธัญพืชกันก่อน
ข้าวสาร และธัญพืช ในสมัยก่อนที่จะมีเงินทองเพชรพลอยนี้ ข้าวสารธัญพืชต่างๆ ล้วนถือเป็นสิ่งมีค่า และแสดงถึงความอุดมสมบูรณ์ และใช้ ข้าวสาร ธัญพืช นี้ แลกเปลี่ยนกัน ดุจเงินตรา ในปัจจุบัน นอกเหนือจาก มีค่าในการแลกเปลี่ยนแล้วนั้น ยังมีคุณค่าในการ ใช้สำหรับเพราะปลูก หุง หรือทำอาหาร ทำให้อิ่มท้องได้ อีกด้วย ดังนั้น ข้าว และธัญพืชต่างๆ จึง เป็นตัวแทน ของสิ่งมีค่ามาตั้งแต่โบร่ำโบราณ

ข้าว และธัญพืช มีบทบาทมากมายในสังคม เศรษฐกิจ และพิธีกรรมทางศาสนา ในที่นี้ เราจะมาพูดถึง พิธีกรรมทางศาสนา พราหมณ์ ฮินดู แบบรวมลัด นะครับ




เอาเรื่องข้าวสารก่อน ข้าวสาร หรือที่รู้จักกันในชื่อ อักษัต (akshata) เป็นของที่ขาดไม่ได้ในการทำบูชาของพราหมณ์ และเป็นของจำเป็นที่ควรมีติดหิ้งบูชาไว้ด้วย นั้น เพราะ เป็นของสารพัดประโชยน์ ในการทำบูชา สามารถใช้แทนสิ่งของมีค่า หรือแทนสิ่งต่างๆในพิธีได้ (ตรงนี้ไม่ขอกล่าวในเบื้องลึกนะครับเดียวยาว)

ข้าวที่เลือกใช้นั้น จะเป็นข้าวเมล็ดสมบูรณ์ ไม่แตกหัก เพราะข้าวนั้นต่างจาก เมล็ดพืชต่างๆ (เมล็ดพืช จะมีซีกๆเช่นถั่ว ต่างๆ แต่ข้าวนั้น ไม่เป็นซีก) ซึ่งการไม่แตกหักนั้น คือสัญลักษณ์ของความมั่นคง มงคล




โดยส่วนมากนั้น ใช้ข้าวสารขาว ในการถวาย แต่ก็มี ที่นำสีไปย้อม โดยจะใช้ผงกุมๆ ผงซินดู หรือผงจันทร์ ในการย้อมสี เพื่อถวายให้กับ เทพ หรือเทวี

ส่วน ข้าวสารที่ย้อมเป็นสีหลายๆ สี นั้น จะใช้ในการทำยันต์ มณฑลพิธี หรือปีฐะ ต่างๆ เช่น ปีฐะยันตร์ ของ นวนพเคราะห์ทั้ง 9 นั้น ใช้ข้าวสารสีที่แตกต่างกัน 7 ถึง 9 สี ในการ เป็นตัวแทนของเทพทั้ง 9 ก็ได้เช่นกัน แต่ก็จะมีกำหนดไว้ว่าต้องวางเรียง จัดวาง หรือสร้างรูปแบบใดๆ แทนเทพองค์ไหนๆ และจะพบเห็นในการ ทำยันต์ ของ พระแม่ต่างๆ อีกด้วย นอกจากนี้ ข้าวสารย้อมสีสวยๆ ต่างๆ ยังนำไปใช้ในการทำ รังโกวรี (rangoli) อีกด้วย




การใช้ข้าวสารในพิธีนั้น พราหมณ์ จะนำข้าวสาร มาใช้แทน ของมีค่าต่างๆ ในขั้นตอนการบูชา เช่น ใช้ข้าวสาร เป็นฐานอาสนะ สำหรับเวลาเชิญเทวรูปมาประทับ ใช้ทำยันต์ หรือใช้ถวายแทนแก้วแหวนเงินทองมีค่า เพราะถือว่าข้าวนั้น คือของมงคล และมีค่าเป็นอย่างยิ่ง

จากตรงนี้ จะเห็นได้ว่า เค้าใช้ทำยันต์ หรือ ใช้ในการประกอบพิธี ไม่มีการนำข้าวย้อมสี มาจัดเรียงเป็นชั้นๆๆ ใส่ขวด วางถวายไว้ ที่เทวรูป เหมือนที่บ้านเราทำกัน ซึ่งตรงนี้ พบเห็นมา ได้หลายปีแล้ว เคยถามว่า เอามาทำไม ถวายเพื่ออะไร คนขายก็ตอบไม่ได้ คนซื้อมาก็ตอบไม่ได้ ไอ้ที่ตอบได้ ก็ มงคล มงคล คือ ใช่ไง มงคล แน่นอน แต่รู้ที่มาที่ไปไหม ??? ไม่รู้ แต่เห็นเค้าทำ เลยทำบ้าง เห็นเค้ามีเลยมีบ้าง ไม่รู้ที่มาที่ไป แต่ก็ทำตามกัน ไปแบบไม่รู้

ด้วยข้อสงสัยนี้ จากที่เคยไป ที่วัด หรือเทวลัย ต่างๆ ที่อินเดียมา ก็ไม่เคยเห็นใครเค้าเอาข้าวสารย้อมสีใส่ขวด ไปวางถวาย กันนะ ตรงนี้ ไปมาหลายที่มาก โดยเฉพาะวัดของพระคเณศ ทั้งที่มุมไบ และปูเน่ ไม่เคยเจอ แต่เคยเจอคนไทยนี่ละเอาไปถวาย แล้วพราหมณ์ ก็ทำหน้า งงๆ เพราะ มันไม่ได้มาในรูปแบบของยันต์ แต่มาเป็นขวด ต่างจาก อีกขวดนึงคนเดียวกันนั้นละ นำมาถวาย ขวดนั้นเป็น ธัญพืช ตรงนี้ ท่านรับ ไปถวายให้เทวรูปข้างในนะ แล้วก็นำออกมาคืนให้ เพราะ นั้น คือ ความสมบูรณ์ (อย่างที่กล่าวมาข้างต้นแล้ว)




(ในส่วนนี้ ผู้อ่านท่านใด มีข้อมูลมาค้าน ว่า ที่อินเดีย เค้าใส่ขวด เรียงชั้นสวยๆ แบบนี้ถวายกัน ทั่วไป พบเห็นได้ ช่วย นำมาบอกกล่าวเป็นข้อมูลกันด้วย และขอที่มาที่ไป อย่างชัดเจนถึงความหมายให้ด้วยนะครับ ยินดีรับฟัง)

ตรงนี้แยกกันให้ออก สักนิด นะครับ ระหว่างข้าวที่ใช้ในการทำประกอบพิธี ทีกล่าวไปแล้วข้างต้น กับ ข้าวสารย้อมสีหลายๆสี ใส่ขวดแก้ว ขวดโหล แล้วเอาไปถวาย ตรงนี้ จุดมุ่งหมาย และการกระทำมันต่างกัน ในพิธีจะเห็นได้ว่าอธิบายไว้ว่า ข้าวนั้น ใช้แทนสิ่งของต่างๆ อย่างไรบ้าง หรือแม้แต่ข้าวผสมสี ที่มาใช้ทำ ปีฐะ ยันต์ต่างๆ แล้วย้อนกลับมาดู ที่ ข้าวสารสีๆ ใส่ขวด ที่บ้านเรานิยม นำมาวางถวายกัน ??? สื่อถึงอะไร ทำทำไม เพื่ออะไร ให้ประโยชน์ อะไร ??? ในส่วนตรงนี้ ไม่ได้บอกนะว่า ผิด หรือห้ามถวาย แต่จะทำอะไร ควรรู้ความหมาย ก่อน ถึงจะกระทำ ไม่ใช่ทำตาม หรือเห็นว่ามี ก็มีบ้าง




หันมาดูธัญพืช อันนี้ถวายได้ ตามที่กล่าวอ้างมา ถึงเรื่องความสมบูรณ์ และความมงคลต่างๆ แต่ตรงนี้ อยากให้ทราบกันว่า การถวายธัญพืชนั้น เปรียบดั่งการถวาย อาหาร ผลไม้ น้ำต่างๆ ต่อเทพเทวา คือ ถวายเสร็จแล้ว ก็ลากลับออกมา ไม่ถวายหรือตั้งทิ้งค้างไว้ ของถวายต่างๆ จะไม่ทิ้งไว้ให้เสีย เน่า ขึ้นรา เหม็นหืน อยู่ที่หน้าเทวรูป ถ้าทำแบบนั้น จะกลายเป็น คุณถวายของเสีย ให้แก่เทวรูป ของพวกนี้ ถวายแล้ว ลาออกมา ไม่ต้องเอาไปตั้งเป็นพร็อบจัดวางสวยงาม ถ้าทำแบบนั้น ไปหา ของเสมือนจริง เช่นดอกไม้ปลอม ขนมปลอมมาจัดวางจะดีกว่า ครับ

ข้อความทั้งหมดนี้ เขียนเพื่อให้ได้ศึกษากันเป็นข้อมูล เพื่อใช้พิจารณา ในสิ่งที่ทำ และจะทำในกาลต่อไป ผู้ไม่รู้ ย่อมไม่ผิด เมื่อรู้ผิด ย่อมปรับปรุง คนทำมาค้าขาย หรือร้านที่ขายอยู่ คงจะด่าผม มิใช่น้อย แต่ อยากให้ คิดว่า คุณขายของบูชาเทพเทวา ผู้ซื้อผู้บูชา ไว้ใจในตัวคุณ นำความรู้ให้เค้าเถอะครับ อย่านำแต่ สิ่งชักนำที่มัวเมาเช่น มีแล้วดี มีแล้วรวย ของต้องมีนะ ของต้องถวาย

ผมก็คนค้าคนขายเช่นกัน ต้องการ ลูกค้า ต้องการ กำไร แต่ ก็ต้องมีจรรยาบรรณ ปลูกฝังในสิ่งที่ดี ให้ผู้ซื้อ ผู้รับ รับไปเค้าได้ดี เค้าก็บอกต่อ อย่าให้แต่ความงมงาย กับความหวังแบบ มโนลมๆแร้งๆ ช่วยกันให้ความรู้ ที่ถูกที่ควร ครับ

ส่วนท่านใดที่มี อยู่แล้ว หรืออยากจะถวายต่อ ถามว่าทำได้ไหม ตอบเลยว่า ได้ครับ แล้วแต่สะดวกนั้น ละ เพราะจริงๆ ก็คือ ถือว่าเป็นสิ่งที่แทนความสมบูรณ์ ครับ เพียงแต่ ที่อินเดีย เค้าไม่มีทำถวายกันแบบนี้ครับ

แล้วถ้ามีแล้วไม่อยากเอาไว้แล้ว หรือเคยถวายไว้แล้ว จะต้องทำอย่างไร
ตรงนี้ แนะนำว่า ให้ นำไปแจกจ่ายเป็นของมงคล กับ เพื้อนๆ ใส่กระเป๋าเงิน ลิ้นชักเงิน นำมาซึ่งความสมบูรณ์ ได้ครับ
เพราะเราก็สวดบูชาไปแล้ว ลาออกมา ก็ถือว่าเป็นของมงคล แบบหนึ่งครับ

หรือสามารถนำไปโปรย รอบบ้าน อธิฐานให้ขจัดซึ่ง สิ่งที่ไม่ดีต่างๆ ไม่ให้เข้ามาในบริเวร บ้านก็ได้เช่นกัน (เหมือนข้าวสารเสกไหม)

แต่ ถ้าคิดจะถวายอีก ผมแนะนำ ปัญจเมวา จะดีกว่า ครับ เพราะอันนี้ ตำรับตำรามี และสามารถถวายได้กับเทพฮินดูทั้งหมด ด้วย ไม่ใช่แค่เฉพาะพระคเณศ องค์เดียว ครับ ถวายได้หมดเลยครับ

หวังว่าบทความนี้ จะเกิดประโยชน์ บ้างไม่มากก็น้อย ในการพิจารณาเลือกซื้อของถวาย ในครั้งต่อๆไป ครับ

ขอบพระคุณครับ

เรียบเรียงโดย ประสัน
12/07/2564

_____________________




เพิ่มเติมเรื่องปัญจเมวา
ขออนุญาตนำข้อมูลของปัญจเมวา
โดย อ.พิทักษ์ โค้ววันชัย สยามคเณศ มาลงเพิ่มให้นะครับ

เกร็ดความรู้เกี่ยวกับการถวายของชุด 5 อย่าง อีกชุดที่น่าสนใจไม่แพ้ปัญจามฤต นั่นคือ

"ปัญจะเมวา หรือ ปัญจะไมวะ"
คือ อาหารวิเศษสำหรับมหาเทพ 5 อย่าง ได้แก่

1. อินทผลัม
2. เมล็ดมะม่วงหิมพานต์ (ดั้งเดิมต้องเป็น เมล็ดมะม่วงหัวแมงวัน หรือเมล็ดต้นรักหมู)
3. อัลมอนด์
4. มะพร้าว หรือ น้ำตาลกรวด
5. ลูกเกด

ของทั้ง 5 อย่างนี้เมื่อรับประทานร่วมกันจะก่อให้เกิดพลังงานอย่างมากและมีสารอาหารครบทุกหมู่

นักบวชชาวอินเดียสมัยก่อนมักจัดชุดนี้ไว้รับประทานหลังจากที่ถือศีลอดถวายมหาเทพ เมื่อหมดเวลาอดอาหารแล้วก็จะทานของ 5 อย่างนี้ก่อนที่จะไปทานอาหารอย่างอื่น เพื่อให้ร่างกายฟื้นฟูกะปรี้กะเปร่าสดชื่นขึ้นในเวลาอันรวดเร็ว

การถวายปัญจเมวาแก่พระเจ้าเป็นการขอพรให้พระองค์ประทานพลังงานกลับมาให้กับเรา

และมีการระบุไว้ว่า ปัญจเมวาทั้งห้า ยังหมายถึง ปัญจเทวตา หรือพระเจ้าสำคัญ 5 องค์ คือ

- อินทผลัม (แทนพระวิษณุ)
- เมล็ดมะม่วงหัวแมงวัน (แทนพระสูรยะ หรือ พระพรหม)
- อัลมอนด์ (แทนพระศิวะ)
- มะพร้าว (แทนพระพิฆเนศ)
- ลูกเกด (แทนพระแม่อุมาเทวี)


ความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม